คือ
การแต่งกายให้เหมาะสม ถูกกาละเทศะ
จะทำให้เราเกิดความเชื่อมั่นในตนเองและไม่ถูกตำหนิติเตียน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
เป็นมงคลข้อที่สาม เพราะการไม่ถูกใครว่าย่อมเป็นสิ่งดีที่เป็นมงคลแก่เราตลอดวัน
และหากจะใส่เสื้อผ้าตามหลักโหราศาสตร์เพื่อเสริมความมั่นใจหรือสร้างกำลังใจให้ตัวเองเพิ่มขึ้น ก็ย่อมได้ แต่ก็ต้องดูให้เหมาะด้วย เช่น ไม่ใส่สีม่วงไปในงานแต่งงานที่เจ้าภาพเขาถือว่าเป็นสีแม่ม่าย แม้ว่าจะเป็นสีที่เขาบอกว่า เป็นสีแห่งโชคลาภของเราวันนั้นก็ตาม
จะทำให้เราเกิดความเชื่อมั่นในตนเองและไม่ถูกตำหนิติเตียน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
เป็นมงคลข้อที่สาม เพราะการไม่ถูกใครว่าย่อมเป็นสิ่งดีที่เป็นมงคลแก่เราตลอดวัน
และหากจะใส่เสื้อผ้าตามหลักโหราศาสตร์เพื่อเสริมความมั่นใจหรือสร้างกำลังใจให้ตัวเองเพิ่มขึ้น ก็ย่อมได้ แต่ก็ต้องดูให้เหมาะด้วย เช่น ไม่ใส่สีม่วงไปในงานแต่งงานที่เจ้าภาพเขาถือว่าเป็นสีแม่ม่าย แม้ว่าจะเป็นสีที่เขาบอกว่า เป็นสีแห่งโชคลาภของเราวันนั้นก็ตาม
ความหมายและความสำคัญของมารยาทในการแต่งกาย
มารยาทในการแต่งกาย คือ ความคิดเกี่ยวกับการแต่งกายทั้งของเดิมที่มีมาในอดีตและของสังคมตะวันตกที่คนไทยรับมาปฏิบัติความถูกต้องอยู่ที่ต้องรู้จักและเลือกแสดงให้เหมาะสมแก่กาลเทศะและบุคคล
โดยคำนึงถึงโอกาสและกิจกรรมเป็นหลักเกณฑ์
หลักสำคัญเกี่ยวกับการแต่งกาย
1. ความสะอาด ร่างกายควรให้สะอาดหมดจดทุกส่วนตั้งแค่ ผม ปาก ฟัน หน้าตา มือ แขน ลำตัว ขา และเท้า เล็บมอ และเล็บเท้า ความสะอาดที่พึงระวังเอาใจใส่เป็นพิเศษในเรื่องเครื่องแต่งกาย
2. ความสุภาพเรียบร้อย ความสุภาพเรียบร้อยควรมีตั้งแต่ศรีษะจรดเท้า
รวมทั้งเครื่องประดับ กระเป๋าถือ ถุงน่องรองเท้า
3.
ความถูกต้องตามกาลเทศะ การเลือกแต่งกายให้ถูกต้องเหมาะสมกับเวลา ยุค
และสมัยนิยม
และเลือกแต่งกายให้ถูกต้องเหมาะสมกับสถานที่ที่จะไปนั้น
ความแตกต่างระหว่างชาย-หญิงในการแต่งกาย
สำหรับผู้ชาย สูทชายเป็นเสื้อผ้าโอกาสปกติ
นิยมให้เสื้อและกางเกงเป็นผ้าอย่างเดียวกันและสีเดียวกัน ถ้าจะเป็นผ้าลวดลาย
ลวดลายนั้นเกิดจากการทอในเนื้อผ้าเป็นแบบอนุรักษ์นิยม
ถ้าใครนำกางเกงสีเทาอ่อนมาสวมกับเสื้อสีกรมท่าไม่ใช่สวมสูท
แต่เป็นการแต่งกายลำลอง
การสวมกางเกงใช้ผ้ามีลวดลาย สวมเสื้อผ้าเรียบก็ได้
เป็นการใช้เสื้อผ้าอย่างไม่เข้าชุด อนุโลมว่าเป็นการแต่งกายในโอกาสลำลอง
สำหรับผู้หญิง ความสุภาพในการแต่งกายต่างไปจากผู้ชาย
เพราะเครื่องแต่งกายของผู้หญิงมีหลากหลายกว่า ความสุภาพ
และความไม่สุภาพอาจอยู่ที่แบบเสื้อและลวดลายหรือแม้แต่ทรงผม
การใช้เครื่องสำอางแต่งหน้าตา ความคับความหลวมของเสื้อ ความสั้นความยาวของกระโปรง
แบบของรองเท้าและกระเป๋าถือ
การแต่งกายไปติดต่อธุรกิจ
การแต่งกายไปติดต่อธุรกิจ
การแต่งกาย ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายร่างกายต้องมีความสะอาดหมดจด
ชายควรโกนหนวดให้เรียบร้อย ผมหวีให้เข้าที ไม่ยุ่งเหยิง เล็บสะอาด ฟันสะอาด
เหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ว่าเจ้าของดูแลเอาใจใส่ต่อร่างกายของตัวเอง
เพื่อสร้างความเชื่อถือกับผู้ที่เราติดต่อด้วย
เสื้อผ้าของผู้ชาย ควรสวมสูทสากล
หรือเสื้อเชิ้ตสีขาว หรือสีอ่อนๆ ผูกเนตไทให้เข้าที่ คอเสื้อ ปกเสื้อ แขนเสื้อ
ให้เรียบร้อย
เสื้อผ้าของผู้หญิง ในการติดต่อธุรกิจปัจจุบันสวมเสื้อทำนองสูท
แต่ไม่เข้มงวดขึงขังเหมือนผู้ชาย เพราะให้ผ้าเบาบางกว่า หลากสี สวยงามกว่า
อาจใส่สีตัดกันหรือสีระหว่างกระโปรงกับเสื้อที่เข้ากันได้
ถ้าไม่สวมสูทอาจเป็นชุดเรียบร้อยดูสภาพ ต้องระวังใช้ผ้าและแบบผ้าบางเบา เช่น ชีฟอง
หรือมีระบายฟู่ฟ่า กระโปรงย้วย บานลากพื้
อาจเหมาะสมในโอกาสอื่นแต่ไม่ใช่ติดต่อธุรกิจ
No comments:
Post a Comment